การพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development)
มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ (Surindra Rajabhat University) เป็นสถาบันอุดมศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น มุ่งสู่การเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำในการพัฒนาท้องถิ่นและชุมชนอย่างยั่งยืน
มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์กำหนดวิสัยทัศน์ คือ “มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ 4.0 เป็นเสาหลักทางวิชาการ ส่งมอบบุคลากรสมรรถนะสูงและนวัตกรรม สร้างคุณค่าและมูลค่า พร้อมทั้งเป็นสถาบันแห่งความภาคภูมิใจของจังหวัดสุรินทร์และภูมิภาค” และมีแผนยุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566-2570) 4 ด้าน ดังนี้ ยุทธศาสตร์ที่ 1 การพัฒนาท้องถิ่น (Local Development Strategy) ยุทธศาสตร์ที่ 2 การผลิตและพัฒนาครู (Teacher Training and Development Strategy) ยุทธศาสตร์ที่ 3 การยกระดับคุณภาพการศึกษา (Educational Enhancement Strategy) และยุทธศาสตร์ที่ 4 การบริหารจัดการ (Management Strategy) ทั้ง 4 ยุทธศาสตร์ได้ถูกออกแบบและดำเนินการโดยมุ่งเป้าไปสู่การพัฒนาท้องถิ่นและชุมชนอย่างยั่งยืนด้วยหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (Su fficiency Economy Principle: SEP) ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (ในหลวงรัชกาลที่ 9 แห่งราชอาณาจักรไทย) และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ (United Nations: UN)

ในหลวงรัชกาลที่ 10 กับการพัฒนาท้องถิ่นและชุมชนอย่างยั่งยืน
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว (ในหลวงรัชกาลที่ 10 แห่งราชอาณาจักรไทย) มีพระราชประสงค์ให้มหาวิทยาลัยราชภัฏทั้ง 38 แห่ง (กระจายตามภูมิภาค ดังนี้ กลุ่มภาคเหนือ 8 แห่ง กลุ่มรัตนโกสินทร์ (กรุงเทพมหานคร) 5 แห่ง กลุ่มภาคกลาง 3 แห่ง กลุ่มภาคตะวันตก 4 แห่ง กลุ่มภาคตะวันออก 2 แห่ง และกลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 11 แห่ง ซึ่งมหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ตั้งอยู่ในกลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) เป็นกลไกสำคัญ (Key Mechanism) ในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศไทยให้เกิดความยั่งยืน (Development of Thailand for Sustainability)

ในหลวงรัชกาลที่ 10 ได้พระราโชบายด้านการศึกษา (Royal Policy of Education) ที่มุ่งสร้างพื้นฐานให้ผู้เรียนมีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง มีคุณธรรม มีงานทำ และเป็นพลเมืองดี



มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ได้น้อมนำพระราโชบายด้านการศึกษาไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development) ของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐิกิจพอเพียง (SEP) ของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาท้องถิ่นเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้กับชุมชน การมุ่งพัฒนาท้องถิ่นด้วยการนำองค์ความรู้และเทคโนโลยีต่าง ๆ จากการวิจัยในมหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ไปพัฒนาชุมชนท้องถิ่น การผลิตและพัฒนาครูที่มีคุณภาพ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศไทย และการสร้างสมดุลทุกมิติ (เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม)

ในหลวงรัชกาลที่ 10 ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นต่อการพัฒนาประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาการศึกษาและการพัฒนาท้องถิ่น ผ่านบทบาทของมหาวิทยาลัยราชภัฏทั้ง 38 ที่กระจายครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์เป็นมหาวิทยาลัยหนึ่งที่ได้ดำเนินตามพระราโชบายด้านการศึกษาไปสู่การพัฒนาท้องถิ่นอย่างแท้จริง ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ขององค์กรสหประชาชาติ (UN)
มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งยวดในประเด็นการพัฒนาที่ยั่งยืน ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ (United Nations: UN) ที่ได้ให้แนวทางในการพัฒนาของโลก รวมทั้งภูมิภาคและประเทศต่าง ๆ โดยเน้นมนุษย์ (People) เศรษฐกิจ (Prosperity) สิ่งแวดล้อม (Planet) ความร่วมมือ (Partnership) และสันติภาพ (Peace) ในระยะเวลา 15 ปี คือ พ.ศ. 2558-2573 ประกอบด้วยเป้าหมายหลัก คือ 1. ขจัดความยากจน (No Poverty) 2. ขจัดความหิวโหย (Zero Hunger) 3. การส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (Good Health and Well-Being) 4. การศึกษาที่มีคุณภาพ (Quality Education) 5. ความเท่าเทียมทางเพศ (Gender Equality) 6. การจัดการน้ำและสุขาภิบาล (Clean Water and Sanitation) 7. การเข้าถึงพลังงานสะอาด (Affordable and Clean Energy) 8. การจ้างงานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ (Decent Work and Economic Growth) 9. อุตสาหกรรม นวัตกรรม โครงสร้างพื้นฐาน (Industry, Innovation and Infrastructure) 10. การลดความเหลื่อมล้ำ (Reduced Inequalities) 11. เมืองและถิ่นฐานมนุษย์อย่างยั่งยืน (Sustainable Cities and Communities) 12. แผนการบริโภคและการผลิตอย่างยั่งยืน (Responsible Consumption and Production) 13. การรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก (Climate Action) 14. การใช้ประโยชน์จากมหาสมุทรและทรัพยากรทางทะเล (Life below Water) 15. การใช้ประโยชน์จากระบบนิเวศทางบก (Life on Land) 16. สังคมแห่งสันติภาพ ยุติธรรม และเข้มแข็ง (Peace, Justice and Strong Institutions) และ 17. ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Partnerships for the Goals)
มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์เป็นสถาบันอุดมศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น กำหนดวิสัยทัศน์ คือ “มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ 4.0 เป็นเสาหลักทางวิชาการ ส่งมอบบุคลากรสมรรถนะสูงและนวัตกรรม สร้างคุณค่าและมูลค่า พร้อมทั้งเป็นสถาบันแห่งความภาคภูมิใจของจังหวัดสุรินทร์และภูมิภาค” โดยมีพันธกิจหลัก 4 ด้าน คือ การจัดการเรียนรู้ (Educational Management) การวิจัย (Research) การบริการวิชาการ (Academic Outreach) และการทำนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรม (Promotion and Preservation of Art and Culture) ซึ่งมีเป้าหมายในการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างชัดเจน (Outstanding Sustainable Development Targets) โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาท้องถิ่นและชุมชนอย่างยั่งยืน (Sustainable Local Development) โดยกำหนดยุทธศาสตร์หลัก 4 ด้าน ประกอบด้วย ยุทธศาสตร์ที่ 1 การพัฒนาท้องถิ่น (Local Development Strategy) ยุทธศาสตร์ที่ 2 การผลิตและพัฒนาครู (Teacher Training and Development Strategy) ยุทธศาสตร์ที่ 3 การยกระดับคุณภาพการศึกษา (Educational Enhancement Strategy) และยุทธศาสตร์ที่ 4 การบริหารจัดการ (Management Strategy) ทั้ง 4 ยุทธศาสตร์ได้ออกแบบและดำเนินการโดยมุ่งเป้าไปสู่การพัฒนาท้องถิ่นและชุมชนอย่างยั่งยืนด้วยหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency Economy Principle: SEP) และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs)
มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ได้เชื่อมโยงระหว่างหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (SEP) และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) อย่างสอดคล้องและกลมกลืน เพราะทั้ง SEP และ SDGs มีเป้าหมายปลายทางเดียวกัน คือ มุ่งพัฒนาและสร้างความสมดุลในมิติสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ส่วนที่เหลื่อมกันอยู่แต่ไม่ขัดกัน ก็คือ SEP เน้นมิติวัฒนธรรมด้วย ขณะที่ใน SDGs มิติวัฒนธรรมแฝงอยู่ในหลายเป้าหมาย และมีในส่วนของสันติภาพและความร่วมมือเพื่อการพัฒนาเพิ่มเข้ามา ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาก็มีปรากฏอยู่ในการประยุกต์ใช้ SEP ในภาคเกษตร คือ เกษตรทฤษฎีใหม่ (New Theory Agriculture) ในระยะที่ 3 หลังจากชุมชนมีความเข้มแข็งแล้วจึงขยายความร่วมมือมายังองค์กรภายนอกชุมชน ซึ่งในส่วนนี้ SDGs จะมีความชัดเจนกว่า SEP ในแง่ที่ว่า SDGs ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับเป้าหมายด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างชัดเจนในรายละเอียดของ SDGs 17 ประการ และเป้าประสงค์ (Targets) 169 ประการ
นอกจากนี้ SEP ยังช่วยเสริม SDGs ให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้นไปอีก เพราะ SEP ให้หลักการในการดำเนินการเพื่อการบรรลุ SDGs ด้วย โดย SEP ให้หลักในการดำเนินการเอาไว้ว่า
1. การดำเนินการใด ๆ เพื่อบรรลุ SDGs ต้องอาศัยองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้อง และคำนึงมิให้มีผลกระทบทางลบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม (เงื่อนไขความรู้ และคุณธรรม)
2. การดำเนินการต้องพิจารณาทางเลือกต่าง ๆ ให้รอบด้าน เห็นเหตุ เห็นผลผลิต ผลลัพธ์ และผลกระทบของแต่ละทางเลือก (หลักความมีเหตุผล)
3. การดำเนินการควรใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพให้พอดีกับการบรรลุเป้าหมายที่ต้องการ ไม่เกิดของเหลือ เน้นการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในครัวเรือนหรือในชุมชนอยู่ก่อนที่จะขยายไปพึ่งพาภายนอก (หลักความพอประมาณ)
4. การดำเนินการควรเตรียมการเพื่อรองรับกับความเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นได้ (หลักภูมิคุ้มกัน)
5. การดำเนินการจะบรรลุผลได้หากเริ่มจากการระเบิดจากข้างใน เริ่มจากท้องถิ่น ซึ่งในการเริ่มดำเนินการจากท้องถิ่นได้นั้นจะต้องไม่ละเลยมิติวัฒนธรรมท้องถิ่นที่จะช่วยเชื่อมโยงคนในท้องถิ่นกับการพัฒนาได้ ยิ่งไปกว่านั้น SEP ยังช่วยกำหนดเป้าหมายสูงสุดของการพัฒนาที่ยั่งยืนไว้ด้วย คือ การพัฒนาที่สุดท้ายต้องมุ่ง “ความสุข” และ “ประโยชน์สุข” ของสังคม ซึ่งหลักคิดนี้จะช่วยให้การพัฒนาที่เกิดขึ้นมิได้เกิดขึ้นแบบเพียงแค่ให้มี แต่เกิดขึ้นเพื่อให้เกิดความสุขและประโยชน์สุขของสังคมด้วย
