เทศกาลวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา จังหวัดสุรินทร์
วันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษาเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาของไทย โดยวันอาสาฬหบูชาตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 เป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงประกาศพระพุทธศาสนาและแสดงปฐมเทศนา “ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร” เป็นวันที่พระรัตนตรัยครบองค์ 3 ส่วนวันเข้าพรรษา ตรงกับวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 เป็นวันที่พระสงฆ์เริ่มการจำพรรษาเป็นเวลา 3 เดือน

วันอาสาฬหบูชา (วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8) เป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา (ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร) แก่ปัญจวัคคีย์ ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน เป็นวันที่พระรัตนตรัยครบองค์ 3 (พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์) เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก และเป็นวันที่พระอัญญาโกณฑัญญะ ได้ดวงตาเห็นธรรมและขอบวชเป็นพระภิกษุรูปแรกในพระพุทธศาสนา ส่วนวันเข้าพรรษา (วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ถึง วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11) เป็นช่วงเวลาที่พระสงฆ์จะจำพรรษา หรือพักประเวณีอยู่ในวัดเป็นเวลา 3 เดือนในช่วงฤดูฝน เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการจาริกในช่วงฤดูฝน และเป็นโอกาสให้พระสงฆ์ได้ศึกษาพระธรรมวินัยและปฏิบัติธรรมร่วมกัน ซึ่งพุทธศาสนิกชนนิยมทำบุญ ตักบาตร ฟังธรรม และถวายเทียนพรรษาในช่วงเข้าพรรษา

วันที่ 10 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.00 น. ผู้ช่วยศาสตราจารย์พรรณราย คำโสภา รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาและพันธกิจสัมพันธ์ เป็นผู้แทนมหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ร่วมในพิธีทำบุญตักบาตรบนหลังช้าง จังหวัดสุรินทร์ ประจำปี 2568 เนื่องในเทศกาลวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา เพื่อสืบทอดวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของจังหวัดสุรินทร์และส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสุรินทร์ โดยมีนายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธาน พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ เอกชน ประชาชน และนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศ ร่วมกิจกรรมอย่างคับคั่ง ณ บริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวาง ต.ในเมือง อ.เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์





มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ให้ความสำคัญของประเพณีและวัฒนธรรมไทย ในวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษาซึ่งเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาที่ชาวพุทธควรระลึกถึงและปฏิบัติตามคำสอน เป็นโอกาสในการทำบุญ สร้างกุศล และรักษาศีล และเป็นช่วงเวลาที่พุทธศาสนิกชนจะได้แสดงความเคารพและบูชาพระรัตนตรัย
การเข้าร่วมประเพณีและวัฒนธรรมไทย “ตักบาตรบนหลังช้าง จังหวัดสุรินทร์ ประจำปี 2568” ก่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนในข้อที่ 11. เมืองและถิ่นฐานมนุษย์อย่างยั่งยืน (Sustainable Cities and Communities) 16. สังคมแห่งสันติภาพ ยุติธรรม และเข้มแข็ง (Peace, Justice and Strong Institutions) และ 17. ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Partnerships for the Goals)
พิธีบวงสรวงตราพระราชลัญจกร
พิธีบวงสรวงตราพระราชลัญจกร มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์จัดขึ้นเพื่อแสดงความเคารพและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9) ที่ทรงพระราชทานตราพระราชลัญจกรให้แก่มหาวิทยาลัยราชภัฏ (พิธีนี้มักจัดขึ้นในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปี ซึ่งเป็น “วันราชภัฏ” เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเกียรติประวัติของมหาวิทยาลัย)


มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์จัดพิธีบวงสรวงตราพระราชลัญจกร (เพื่อใช้ประกอบพิธีอัญเชิญตราพระราชลัญจกร ในวันที่ 17 กรกฎาคม 2568 เวลา 17.30 น. ณ สนามกีฬาศรีณรงค์ จังหวัดสุรินทร์) เพื่อประกอบพิธีอัญเชิญตราพระราชลัญจกร และพิธีไหว้ครู สู่ขวัญน้องใหม่ ประจำปีการศึกษา 2568


17 ก.ค. 2568 เวลา 09.09 น. กองพัฒนานักศึกษา ร่วมกับ องค์การนักศึกษาภาคปกติ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ จัดพิธีบวงสรวงตราพระราชลัญจกร มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ เพื่อนำไปประกอบพิธีอัญเชิญตราพระราชลัญจกร และพิธีไหว้ครู สู่ขวัญน้องใหม่ ประจำปีการศึกษา 2568 ในช่วงเย็นวันนี้ที่สนามกีฬาศรีณรงค์ จังหวัดสุรินทร์ ในการนี้ รองศาสตราจารย์ ดร.ฉลอง สุขทอง อธิการบดี มอบหมายให้ รองศาสตราจารย์ ดร.อำนวย วัฒนกรสิริ รองอธิการบดีฝ่ายเทคโนโลยีและการสื่อสารองค์กร เป็นประธานในการประกอบพิธีดังกล่าว ณ ลานคชสราญ ชั้น 1 อาคารสำนักงานอธิการบดี (อาคาร 31) มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์







พิธีบวงสรวงตราพระราชลัญจกร มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ ประจำปี 2568 จัดขึ้นเพื่อแสดงความเคารพและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9) ก่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนในข้อที่ 11. เมืองและถิ่นฐานมนุษย์อย่างยั่งยืน (Sustainable Cities and Communities) 16. สังคมแห่งสันติภาพ ยุติธรรม และเข้มแข็ง (Peace, Justice and Strong Institutions) และ 17. ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Partnerships for the Goals)

