การนำนวัตกรรมไปใช้ในการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เป็นแนวทางที่มีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะนวัตกรรมจะช่วยลดภาระงานที่ไม่จำเป็น และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ   ในการจัดการเรียนการสอน และการบริหารจัดการในสถานศึกษา นวัตกรรมจะกระตุ้นให้บุคลากรเกิดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ปรับตัวกับเทคโนโลยีและวิธีการสอนใหม่ๆ อยู่เสมอ นอกจากนั้นการพัฒนานวัตกรรมจะช่วยยกระดับมาตรฐานการปฏิบัติงานของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้มีความก้าวหน้าทางวิชาชีพมากยิ่งขึ้น โดยเริ่มจากการพัฒนาความรู้ในการใช้สื่อเทคโนโลยีเพื่อนำไปใช้ในการพัฒนานวัตกรรมทางการศึกษา ที่จะช่วยส่งเสริมและพัฒนาทักษะของผู้เรียนให้รู้จักการคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหา ทำงานเป็นทีม และเกิดความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 การบูรณาการเทคโนโลยีร่วมกับการจัดการเรียนรู้เชิงรุกเพื่อพัฒนานวัตกรรม ที่สามารถนำไปใช้ในการพัฒนาชุมชนที่ตั้งโรงเรียน จะทำให้เกิดการเชื่อมโยงความสัมพันธ์อันดีระหว่างโรงเรียนและชุมชน และยังเป็นการพัฒนานักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะนักเรียนได้เรียนรู้ปัญหาจริงจากในชุมชน กระตุ้นให้นักเรียนคิดนอกกรอบ แสวงหาวิธีการใหม่ ๆ ในการแก้ปัญหา ค้นคว้าหาความรู้ด้วยตนเอง ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการสร้างนวัตกรรม

          คณะครุศาสตร์ เห็นความสำคัญในการพัฒนาข้าราชการและบุคลากรทางการศึกษาให้มีความรู้ ความเข้าใจและเกิดทักษะในการพัฒนานวัตกรรมทางการศึกษา จึงได้จัดทำโครงการการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้แห่งอนาคต เพื่อพัฒนาความรู้ ความเข้าใจ และเสริมสร้างทักษะการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence)  ในการออกแบบแผนการสอนและสร้างสรรค์นวัตกรรม      การเรียน การสอน เพื่อ Re- Skill Up-Skill and New Skill ด้วยกระบวนการจัดการเรียน การสอนเชิงรุก (Active learning) ที่สามารถนำไปสร้างนวัตกรรมในการพัฒนาชุมชน (Active Learning for community Innovation) ในท้องถิ่นที่ตั้งของโรงเรียน และยังส่งผลไปสู่การยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนให้สูงขึ้นอีกด้วย

• กิจกรรมที่ 1

1.1 การอบรมเชิงปฏิบัติการ “เส้นโค้งการเรียนรู้ Active Curve สู่ห้องเรียน Active Learning”

1.2 การอบรมเชิงปฏิบัติการ“ยอดครูนักคิดจิตนวัตกร The Innovator Spirit” สู่การพัฒนาทักษะนวัตกรในผู้เรียน

• กิจกรรมที่ 2  การอบรมเชิงปฏิบัติการ “การพัฒนาศักยภาพครูเพื่อการเรียนรู้ทักษะแห่งอนาคต”

จำนวนผู้เข้าร่วมแยกตามวัตถุประสงค์โครงการและตัวชี้วัด

จำนวนผู้เข้าร่วมแยกตามสังกัดของกลุ่มเป้าหมาย

1. ครูประจำการทั่วไปและศิษย์เก่า ที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 71 โรงเรียน

2. ครูประจำการทั่วไปและศิษย์เก่า ที่เข้าร่วมโครงการร้อยละ 90 สามารถออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้ “เส้นโค้งการเรียนรู้ Active Curve สู่ห้องเรียน Active Learning”

3. ครูประจำการทั่วไปและศิษย์เก่า ที่เข้าร่วมโครงการร้อยละ 90 สามารถประยุกต์ใช้ AI สำหรับออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาผู้เรียน

• ข้อค้นพบหรือสิ่งที่ได้ทดลอง

1. ครูมีความรู้และทักษะการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) เพิ่มขึ้น

2. ครูสามารถออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับ Active Curve และแนวคิด Innovation ได้

3. ครูสามารถพัฒนาสื่อ นวัตกรรม และแผนการจัดการเรียนรู้โดยประยุกต์ใช้ AI

การพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้แห่งอนาคต เพื่อพัฒนาความรู้ ความเข้าใจ และเสริมสร้างทักษะการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence)  ในการออกแบบแผนการสอนและสร้างสรรค์นวัตกรรม  การเรียน การสอน เพื่อ Re- Skill Up-Skill and New Skill ด้วยกระบวนการจัดการเรียน การสอนเชิงรุก (Active learning) ที่สามารถนำไปสร้างนวัตกรรมในการพัฒนาชุมชน (Active Learning for community Innovation) ในท้องถิ่นที่ตั้งของโรงเรียน

การ Up-skills Re-skills และ New-skills ศิษย์เก่า ครูประจำการทั่วไปและบุคลากรทางการศึกษา ด้วยกระบวนการจัดการเรียนการสอนเชิงรุก (Active learning) ที่สามารถนำไปสร้างนวัตกรรมในการพัฒนาชุมชน (Active Learning for community Innovation) ในท้องถิ่นที่ตั้งของโรงเรียนร่วมกับการพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้แห่งอนาคต โดยใช้ AI จะทำให้ครูสามารถออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้ในการพัฒนาผู้เรียน และสร้างสรรค์นวัตกรรมการเรียน การสอน ให้สอดคล้องกับบริบทพื้นที่ นำไปสู่การจัดการเรียน การสอนที่สามารถยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนให้สูงขึ้นอย่างมีคุณภาพ