การสืบสานมรดกวัฒนธรรมเพื่อความยั่งยืน: โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้ภูมิทัศน์วัฒนธรรม และมรดกทางวัฒนธรรมปราสาทภูมิโปน

การสืบสานมรดกวัฒนธรรมเพื่อความยั่งยืน: โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้ภูมิทัศน์วัฒนธรรม และมรดกทางวัฒนธรรมปราสาทภูมิโปน

Aug 13, 2025

บทนำ

ปราสาทภูมิโปน ณ ตำบลดม อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ ถือเป็นศาสนสถานในวัฒนธรรมขอมสมัยก่อนเมืองพระนครที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย หลักฐานทางโบราณคดีบ่งชี้ถึงการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ และความสัมพันธ์กับอาณาจักรเจนละในช่วงพุทธศตวรรษที่ 12 – 14 อิทธิพลทางสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมที่ปรากฏ ณ ปราสาทแห่งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความรุ่งเรืองและการแผ่ขยายอำนาจของพระเจ้ามเหนทรวรมัน ซึ่งได้กลายเป็นต้นแบบทางวัฒนธรรมที่สืบทอดมายังดินแดนลุ่มแม่น้ำมูลในประเทศไทย

ด้วยความตระหนักในคุณค่าอันประเมินมิได้ของมรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งนี้ สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ จึงได้จัด โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้ภูมิทัศน์วัฒนธรรม และมรดกทางวัฒนธรรมปราสาทภูมิโปน ขึ้น เพื่อสร้างความตระหนักรู้และส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าให้ดำรงอยู่คู่ชุมชนอย่างยั่งยืน

วัตถุประสงค์และกระบวนการดำเนินงาน

โครงการนี้มีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนในการสร้างองค์ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับภูมิทัศน์วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของปราสาทภูมิโปนให้แก่บุคลากรและเยาวชนในชุมชน ควบคู่ไปกับการส่งเสริมจิตสำนึกในการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมของท้องถิ่น

กระบวนการดำเนินงานประกอบด้วยการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการ ณ วันที่ 1 – 2 เมษายน 2568 โดยได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิ ได้แก่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กฤษฎา พิณศรี และนางสุคต แม่นผล เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้เชิงลึก ทั้งในภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ซึ่งเป็นการสร้างโอกาสในการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้แก่คนในชุมชน อันเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อน เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ 4 (SDG 4: การศึกษาที่มีคุณภาพ)

ผลลัพธ์และการขับเคลื่อนสู่ความยั่งยืน

การดำเนินโครงการประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี โดยมีประชาชน เยาวชน และนักเรียนในพื้นที่ตำบลดม อำเภอสังขะ เข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 50 คน ผู้เข้าร่วมได้รับเอกสารเผยแพร่ความรู้จำนวน 1 เล่ม และจากการประเมินความรู้ความเข้าใจหลังการอบรม พบว่ามีผู้ผ่านเกณฑ์การประเมินถึง 41 คน คิดเป็นร้อยละ 82 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิผลของการถ่ายทอดองค์ความรู้

ผลลัพธ์ดังกล่าวไม่เพียงแต่สร้างองค์ความรู้ให้แก่ปัจเจกบุคคล แต่ยังเป็นการเสริมสร้างศักยภาพของชุมชนในการเป็นผู้พิทักษ์รักษามรดกทางวัฒนธรรมของตนเอง ซึ่งสอดคล้องโดยตรงกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ 11 (SDG 11: เมืองและชุมชนที่ยั่งยืน) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเป้าหมายย่อยที่ 11.4 ว่าด้วยการเสริมสร้างความพยายามในการคุ้มครองและ safeguarding มรดกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติของโลก การที่คนในชุมชนสามารถบอกเล่าเรื่องราวและคุณค่าของปราสาทภูมิโปนได้อย่างถูกต้อง จะนำไปสู่การจัดการการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่ยั่งยืน และสร้างความภาคภูมิใจในอัตลักษณ์ของท้องถิ่น

บทสรุปและข้อเสนอแนะเชิงพัฒนา

โครงการได้บรรลุวัตถุประสงค์ในการสร้างองค์ความรู้และส่งเสริมการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมปราสาทภูมิโปนอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม โครงการได้สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเยาวชน ซึ่งมีผู้เข้าร่วมจำนวนน้อยเนื่องจากอยู่ในช่วงปิดภาคการศึกษา
ดังนั้น เพื่อให้การสืบสานมรดกทางวัฒนธรรมเกิดความต่อเนื่องและครอบคลุมทุกช่วงวัย จึงมีข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาในอนาคต ดังนี้
        1. ควรพิจารณากำหนดช่วงเวลาการจัดกิจกรรมให้สอดคล้องกับปฏิทินการศึกษา เพื่อเพิ่มโอกาสการมีส่วนร่วมของเยาวชนคนรุ่นใหม่
        2. ควรพัฒนารูปแบบการนำเสนอเนื้อหาและกิจกรรมให้มีความน่าสนใจและร่วมสมัย เพื่อสร้างแรงจูงใจให้เยาวชนเข้ามามีบทบาทในการเป็นผู้สืบทอดและถ่ายทอดเรื่องราวของมรดกทางวัฒนธรรมสู่สาธารณะได้อย่างกว้างขวางต่อไป