จากความรู้สู่ความยั่งยืน: การพัฒนาท้องถิ่นด้วย BCG และ Soft Power

จากความรู้สู่ความยั่งยืน: การพัฒนาท้องถิ่นด้วย BCG และ Soft Power

Sep 8, 2025

พื้นที่ชุมชนในจังหวัดสุรินทร์ยังคงเผชิญกับปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำและไม่สามารถเข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจได้เต็มที่ แม้ชุมชนจะมีทรัพยากรและภูมิปัญญาท้องถิ่นที่หลากหลาย เช่น งานหัตถกรรม การทอผ้า และการใช้สมุนไพร แต่กลับประสบข้อจำกัดด้านการผลิต มาตรฐานคุณภาพ และช่องทางการตลาด ปัญหาเหล่านี้ทำให้ผลิตภัณฑ์ชุมชนไม่สามารถสร้างรายได้ที่มั่นคง อีกทั้งยังมีความท้าทายในการปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและเศรษฐกิจยุคใหม่

จากการดำเนินงานที่ผ่านมา พบว่าชุมชนยังขาดระบบการจัดการที่เข้มแข็ง ขาดความรู้ด้านการแปรรูปสินค้าและนวัตกรรมการตลาด ตลอดจนการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อขยายตลาดออนไลน์ แม้จะมีการรวมกลุ่มอาชีพ แต่ยังไม่สามารถสร้างมาตรฐานผลิตภัณฑ์ที่แข่งขันได้ อีกทั้งยังมีข้อจำกัดเรื่องการสื่อสารและการขนส่ง ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน ดังนั้นความต้องการเร่งด่วนของชุมชน คือ การได้รับการสนับสนุนองค์ความรู้ เทคโนโลยี และกระบวนการเรียนรู้ร่วมกัน เพื่อเพิ่มศักยภาพในการผลิตและสร้างรายได้ที่มั่นคง คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์กาญจนา  เถาว์ชาลี ดร.อุษา  กลมพันธ์ ดร.วิไลวรรณ  งามฉลาด และ นายอุทัย  กำจร จึงได้มีการดำเนินโครงการยกระดับเศณฐกิจด้วยองค์ความรู้ของมหาวิทยาลัย ซึ่งโครงการนี้มีความสำคัญในฐานะกลไกในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากและสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน โดยการบูรณาการองค์ความรู้ทางวิชาการเข้ากับภูมิปัญญาท้องถิ่น ผ่านกระบวนการบริการวิชาการที่มีส่วนร่วม ช่วยให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ ลดความยากจน และสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังมีความสำคัญต่อการพัฒนานักศึกษาให้มีโอกาสเรียนรู้จากการปฏิบัติจริง เชื่อมโยงการเรียนการสอนกับปัญหาและความต้องการของสังคม จึงเป็นการตอบสนองต่อทั้งพันธกิจทางวิชาการและการพัฒนาท้องถิ่นอย่างแท้จริง โครงการนี้จัดภายใต้การกับกับดูแลของผู้ช่วยศาสตราจารย์อัชราพร  สุขทอง คณบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ ภายใต้โครงการยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น ปีงบประมาณ 2568 กิจกรรมสำคัญจัดขึ้นในพื้นที่ บ้านโคกสวาย ตำบลท่าสว่าง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ ระหว่างเดือนมกราคม–กุมภาพันธ์ 2568 โดยมีกิจกรรมหลัก เช่น เวทีนำเสนอความก้าวหน้า กิจกรรม Open House เวทีเสวนาและการออกร้านผลิตภัณฑ์ชุมชน รวมทั้งการติดตามประเมินผลโครงการ เพื่อถอดบทเรียนและวางแนวทางการพัฒนาต่อไป

โครงการนี้เชื่อมโยงกับหลายเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ได้แก่ SDG 1: ขจัดความยากจน – ผ่านการสร้างรายได้และอาชีพใหม่ให้ชุมชน SDG 8: การจ้างงานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ – ผ่านการพัฒนาทักษะและยกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชน SDG 11: เมืองและถิ่นฐานมนุษย์อย่างยั่งยืน – ผ่านการพัฒนาชุมชนให้เป็นต้นแบบที่พึ่งพาตนเองได้ SDG 17: ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน – ผ่านการประสานความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย ชุมชน หน่วยงานภาครัฐ และเครือข่ายต่าง ๆ

วัตถุประสงค์ของการดำเนินการ คือ เพื่อติดตามและประเมินผลการดำเนินงาน ของโครงการยุทธศาสตร์คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ เพื่อบูรณาการองค์ความรู้สู่การปฏิบัติจริง โดยนำผลการดำเนินโครงการและการถอดบทเรียนมาประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอน การวิจัย และการบริการวิชาการ เพื่อจัดเวทีถอดบทเรียนและแลกเปลี่ยนเรียนรู้

วิธีดำเนินงาน / กิจกรรมที่จัด การดำเนินงานของโครงการพัฒนาท้องถิ่นด้วยองค์ความรู้และยกระดับเศรษฐกิจฐานรากนี้ เน้นการบูรณาการระหว่างมหาวิทยาลัย ชุมชน และหน่วยงานภาคีในจังหวัดสุรินทร์ โดยมีกระบวนการดำเนินงานที่ชัดเจน ทั้งในเชิงการอบรม การเวิร์กช็อป และการลงพื้นที่จริง เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกันอย่างมีส่วนร่วม

มีขั้นตอนดำเนินงาน

  • ขั้นที่ 1: การนำเสนอความก้าวหน้า (25–26 และ 29 มกราคม 2568)

จัดเวทีนำเสนอความก้าวหน้าของโครงการยุทธศาสตร์ของคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ เพื่อติดตามผลและสะท้อนการดำเนินงาน: นักศึกษา ผู้แทนชุมชน หน่วยงานภาครัฐ และคณะทำงานโครงการทั้งในรูปแบบเวิร์กช็อปและเสวนาเชิงวิชาการ

  • ขั้นที่ 2: Open House และเวทีเสวนา (5–8 และ 13 กุมภาพันธ์ 2568)

จัดงาน Open House เวทีเสวนา การออกร้าน และการสาธิตผลิตภัณฑ์ชุมชน พร้อมการถอดบทเรียนความสำเร็จและอุปสรรคร่วมกับชุมชนกลุ่มเป้าหมายจำนวน 8  หมู่บ้าน โรงเรียนในพื้นที่ 1–3 แห่ง นักศึกษา และภาคีเครือข่ายจากหน่วยงานรัฐ–เอกชนงานแสดงสินค้าเชิงวัฒนธรรม เวิร์กช็อปถ่ายทอดความรู้ และการสาธิตผลิตภัณฑ์

  • ขั้นที่ 3: การกำกับติดตามและประเมินผล (กุมภาพันธ์ 2568)

 คณะกรรมการติดตามลงพื้นที่ชุมชนเพื่อกำกับ ประเมินผล และสรุปผลการดำเนินงานของโครงการคณะกรรมการกำกับติดตาม นักศึกษา และผู้นำชุมชนการลงพื้นที่จริง (Fieldwork) ร่วมกับการประชุมเชิงสรุปผล

  • ผู้เข้าร่วม:
    • นักศึกษาสาขาการพัฒนาสังคมและสาขาอื่นๆที่สนใจ จำนวนไม่น้อยกว่า 50 คน
    • ตัวแทนชุมชนเป้าหมายจำนวน 8 หมู่บ้าน
    • โรงเรียนในพื้นที่ (อย่างน้อย 1–3 แห่ง)
    • เครือข่ายภาคี เช่น พัฒนาชุมชนจังหวัด อุตสาหกรรมจังหวัด และกลุ่มวิสาหกิจชุมชน

สรุปคือ โครงการนี้ใช้ แนวทางการมีส่วนร่วม (Participatory Approach) โดยเน้นการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัย ชุมชน และหน่วยงานภาคี ผ่านทั้งเวิร์กช็อป อบรม เวทีเสวนา และการลงพื้นที่จริง เพื่อสร้างความรู้และเสริมพลังให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน

ผลลัพธ์

โครงการการพัฒนาท้องถิ่นด้วยองค์ความรู้และยกระดับเศรษฐกิจฐานรากด้วยองค์ความรู้ทางวิชาการของมหาวิทยาลัย ได้รับความร่วมมือจากกลุ่มเป้าหมายหลายภาคส่วน โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมรวมกว่า 50 คนจากกลุ่มนักศึกษา และ ชุมชนเป้าหมายไม่น้อยกว่า 5 หมู่บ้าน รวมถึงโรงเรียน 3 แห่ง ทำให้กิจกรรมสามารถเข้าถึงทั้งกลุ่มเยาวชน คนในชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถือเป็นฐานสำคัญของการสร้างเครือข่ายการเรียนรู้ร่วมกัน

ผลลัพธ์ที่สำคัญคือ ผู้เข้าร่วมได้รับการเรียนรู้และเกิดการเปลี่ยนแปลงในหลายมิติ ทั้งด้านความรู้และทักษะ เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพตามมาตรฐาน การเรียนรู้การตลาดเชิงนวัตกรรม รวมถึงการใช้เทคโนโลยีเพื่อประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ของชุมชน ผู้เข้าร่วมยังได้ตระหนักถึงคุณค่าของภูมิปัญญาท้องถิ่น และมองเห็นช่องทางที่จะนำองค์ความรู้เหล่านี้ไปต่อยอดเป็นรายได้ที่มั่นคงมากขึ้น

ในระหว่างการดำเนินงานพบข้อค้นพบที่น่าสนใจ เช่น ชุมชนสามารถนำสมุนไพรในป่าชุมชนมาใช้ประโยชน์ ทั้งในเชิงสุขภาพและการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อจำหน่าย อีกทั้งยังทดลองสร้างต้นแบบผลิตภัณฑ์บางชนิด เช่น การแปรรูปสมุนไพรและการต่อยอดงานหัตถกรรมท้องถิ่น ซึ่งชี้ให้เห็นถึงศักยภาพของชุมชนที่จะพัฒนาเป็นธุรกิจเชิงสร้างสรรค์ หากได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติม

ความเห็นจากผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่สะท้อนในเชิงบวก โดยชาวบ้านมองว่าโครงการนี้ช่วยเปิดโลกทัศน์ใหม่ ทำให้เห็นคุณค่าในทรัพยากรและภูมิปัญญาที่มีอยู่ ขณะเดียวกันนักศึกษาก็ได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง เกิดทักษะในการทำงานร่วมกับชุมชนและสามารถเชื่อมโยงความรู้ทางวิชาการกับปัญหาที่เกิดขึ้นจริงได้ หลายคนเสนอว่าควรมีการต่อยอดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการสนับสนุนด้านการตลาดออนไลน์และการสร้างมาตรฐานผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ผลลัพธ์ของโครงการขยายผลไปสู่ความยั่งยืนในระยะยาว

โครงการนี้ไม่เพียงสร้างการมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวาง แต่ยังสร้างการเรียนรู้ที่เปลี่ยนแปลงผู้เข้าร่วม ทั้งในแง่ทัศนคติ ทักษะ และโอกาสใหม่ ๆ ตลอดจนเป็นจุดเริ่มต้นของการทดลองพัฒนานวัตกรรมที่มีศักยภาพต่อยอดเป็นเศรษฐกิจฐานรากที่เข้มแข็งและยั่งยืนในอนาคต

ความเชื่อมโยงกับ SDGs

โครงการการพัฒนาท้องถิ่นด้วยองค์ความรู้และยกระดับเศรษฐกิจฐานรากด้วยองค์ความรู้ทางวิชาการของมหาวิทยาลัย มีความสอดคล้องอย่างชัดเจนกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) หลายข้อ ซึ่งเป็นกรอบสากลที่ทุกประเทศให้ความสำคัญ โดยโครงการนี้ไม่ได้เพียงแก้ปัญหาเชิงเศรษฐกิจ แต่ยังส่งเสริมคุณภาพชีวิต ความร่วมมือ และความเข้มแข็งของชุมชนในภาพรวม ก่อนอื่น โครงการนี้ตอบสนองต่อ SDG 1: ขจัดความยากจน (No Poverty) โดยตรง เนื่องจากมีการสนับสนุนการสร้างรายได้ให้กับครัวเรือนยากจนผ่านการพัฒนาทักษะอาชีพ การแปรรูปผลิตภัณฑ์ และการยกระดับมาตรฐานสินค้า ซึ่งช่วยลดความเหลื่อมล้ำด้านเศรษฐกิจในระดับชุมชน

ในด้านของการจ้างงานและเศรษฐกิจ โครงการเชื่อมโยงกับ SDG 8: การจ้างงานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ (Decent Work and Economic Growth) ผ่านการจัดอบรมและเวิร์กช็อปที่มุ่งพัฒนาทักษะของคนในชุมชน การสร้างโอกาสการจ้างงานใหม่ ๆ รวมถึงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG (Bio–Circular–Green Economy) ที่มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและยั่งยืน

อีกมิติหนึ่งคือการพัฒนาพื้นที่และชุมชนต้นแบบที่เข้มแข็ง ซึ่งเชื่อมโยงกับ SDG 11: เมืองและถิ่นฐานมนุษย์อย่างยั่งยืน (Sustainable Cities and Communities) โครงการมุ่งสร้างชุมชนที่พึ่งพาตนเองได้ มีระบบการจัดการทรัพยากรที่สมดุล และสามารถพัฒนาเป็นพื้นที่ต้นแบบในการเรียนรู้และขยายผลสู่พื้นที่อื่น ๆ ได้อย่างยั่งยืน

โครงการนี้ยังสะท้อนถึงความร่วมมือหลายภาคส่วน ทั้งมหาวิทยาลัย หน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคประชาชน และภาคีเครือข่าย จึงเชื่อมโยงกับ SDG 17: ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Partnerships for the Goals) ซึ่งเน้นการประสานพลังความร่วมมือในทุกระดับเพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกัน ความเชื่อมโยงของโครงการกับ SDGs จึงมีทั้งมิติการแก้ปัญหาความยากจน การสร้างอาชีพ การพัฒนาชุมชนที่ยั่งยืน และการสร้างเครือข่ายความร่วมมือ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ

สรุปผล / ข้อเสนอแนะ

จากการดำเนินงาน โครงการการพัฒนาท้องถิ่นด้วยองค์ความรู้และยกระดับเศรษฐกิจฐานรากด้วยองค์ความรู้ทางวิชาการของมหาวิทยาลัย สามารถกล่าวได้ว่า บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ ทั้งในด้านการสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชน การยกระดับผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น และการถ่ายทอดองค์ความรู้จากมหาวิทยาลัยสู่พื้นที่จริง กิจกรรมต่าง ๆ เช่น เวทีเสวนา การอบรมเชิงปฏิบัติการ และการลงพื้นที่ถอดบทเรียน ได้ก่อให้เกิดการเรียนรู้ที่เป็นรูปธรรม ทั้งในมิติของชุมชน นักศึกษา และหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้อง

อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ของโครงการยังชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการ ต่อยอดและขยายผล ไปยังพื้นที่อื่น ๆ ที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน เช่น การทำซ้ำในชุมชนที่ยังขาดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือการขยายไปสู่โรงเรียนและศูนย์การเรียนรู้เพิ่มเติม เพื่อสร้างฐานการเรียนรู้ที่กว้างขึ้น การต่อยอดยังควรครอบคลุมการพัฒนาตลาดออนไลน์ และการสร้างแบรนด์สินค้าชุมชนเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้างมากขึ้น

สำหรับ ข้อเสนอเพื่อความยั่งยืนในอนาคต จำเป็นต้องสร้างระบบสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเสริมศักยภาพคนในชุมชน การจัดตั้งเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนที่เข้มแข็ง และการเชื่อมโยงกับหน่วยงานสนับสนุนทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อให้การพัฒนาไม่หยุดอยู่เพียงแค่กิจกรรมโครงการ แต่กลายเป็นกระบวนการที่ชุมชนสามารถดูแลและขับเคลื่อนได้ด้วยตนเอง นอกจากนี้ การติดตามผลอย่างสม่ำเสมอและการสร้าง “ชุมชนต้นแบบ” จะช่วยเป็นแรงบันดาลใจให้พื้นที่อื่น ๆ นำไปประยุกต์ใช้และขยายผลต่อไป

กล่าวโดยสรุป โครงการนี้เป็นก้าวแรกที่สำคัญของการเชื่อมโยงองค์ความรู้สู่การปฏิบัติจริง และสร้างพลังร่วมเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นอย่างยั่งยืน ซึ่งสะท้อนถึงหลักการ “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” ตามกรอบ SDGs อย่างแท้จริง

เพราะทุกก้าวเล็ก ๆ ของการพัฒนา เมื่อเดินไปด้วยกัน จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่เพื่ออนาคตของชุมชนและสังคมไทย

อัลบั้มภาพ